โดยเป็นสกิลที่เป็นการเสริมความกระหายเลือดให้กับยูนิตฝ่ายเดียวกัน เป็นสกิลที่เพิ่มความเร็วในการโจมตี และเป็นสกิลสร้างความเสียหายจากสกิลที่ใช้ได้เป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันตัวฮีโร่ Bloodseeker เอง
ก็จะเสียพลังชีวิตของตนเองลดลงเรื่อยๆ กลับกลายเป็นความกระหายเลือดที่อยากจะสังหารศัตรูจนไม่สนใจพลังชีวิตของตนเอง และสกิลถัดมา
สกิลที่สองของBloodseeker ใน dota คือ Blood Rite เป็นสกิลที่ร่ายใส่พื้นที่เป้าหมาย และสร้างความเสียหายโดยตรงต่อฝั่งศัตรูในสมรภูมิ dota โดยที่สกิลนี้จะทำให้เกิดวงเวทย์เหมือนพิธีกรรมเลือดขนาดใหญ่ขึ้น
ในบริเวณที่ร่ายไปภายในระยะเวลา 2.9 วินาที หากว่าอีกศัตรูฝ่ายในเกม dota ไม่หนีออกจากพื้นที่นั้น ก็จะได้รับความเสียหายเต็มๆ และทำให้สกิลอีกฝ่ายถูกใบ้
สกิลต่อมาของฮีโร่ Bloodseeker ในเกม dota เรียกว่า Thirst
โดยสกิลที่สามนี้เป็นสกิลติดตัวของBloodseeker ที่จะส่งผลให้Bloodseeker แห่งเกม dota นั้น มีความแข็งแกร่งขึ้นจากบาดแผลที่เกิดจากศัตรูอีกฝั้ง ทำให้เมื่อBloodseeker สังหารยูนิตอีกฝ่ายได้
จะได้รับการพื้นฟูพลังชีวิต นอกจากนี้จะทำให้ฮีโร่ Bloodseeker ของเกม dota ตัวนี้ เป็นผู้ไล่ล่าที่แท้จริงในสมรภูมิ dota อีกด้วย
โดยเมื่อไหร่ที่ฮีโร่อีกฝ่ายที่เป็นศัตรูมีพลังชีวิตต่ำว่า 75% ตัว ก็จะเพิ่มความเร็วของตนเองขึ้นเป็นอย่างมาก และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามพลังชีวิตที่ลดน้อยลงของฮีโร่ฝั่งศัตรู และสามารถซ้อนทับได้จากฮีโร่ศัตรูหลายตัวได้ และเมื่อพลังชีวิตของฮีโร่ของศัตรูอีกฝ่ายน้อยกว่า 25%
จะสามารถมองเห็นแบบ Ture Sight (มองเห็นทะลุผ่าน และมองเห็นได้ในแผนที่) และทำให้เกิดความเร็วในการเคลื่อนที่เกินกว่าขีดจำกัด และสุดท้ายสกิลท่าไม้ตายของฮีโร่Bloodseekerในเกม dota ก็คือ Rupture เป็นสกิลที่ล็อคเป้าหมาย 1 ตัวโดยจะสร้างความเสียหายจริง และไม่มีอะไรที่จะสามารถลบล้างสกิลนี้ได้เลย
เป็นการสร้างบาดแผลฉกรรจ์แก่ศัตรูอีกฝ่าย หากยูนิตเคลื่อนที่ จะทำให้ศัตรูอีกฝ่ายในเกม dota เสียเลือดตามระยะทางที่เคลื่อนที่ และความเสียหายจะทะลุผ่านการป้องกันที่สมบูรณ์ได้
เครดิต แทงบอลออนไลน์
